รีวิว HPE ProLiant DL380 Gen10
Please wait...
ENTERPRISE IT UPDATE
รีวิว HPE ProLiant DL380 Gen10
เซิร์ฟเวอร์แร็ค ขนาด 2U ซึ่งจัดว่าเป็น Flagship ของ HPE ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น Gen10 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ รวมถึงเป็นการโชว์ผลงานของ Intel’s Xeon Scalable CPUs ได้เป็นอย่างดี
 




ข้อดี
สุดยอดแห่งความคุ้มค่า; ซีพียู Xeon Scalable; ด้วยระบบการทำงานที่สามารถปรับให้มีความยืดหยุ่นได้มากขึ้น; ตัวเลือกการจัดเก็บที่มีให้เลือกอย่างมากมาย; การบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพของ iLO 5; แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่มีศักยภาพสูง
 

คำตัดสิน
อาจจะมองว่าเป็นเซิร์ฟเวอร์แร็ค ขนาด 2U ที่มีความหลากหลายที่สุดในโลก ซึ่ง DL380 Gen10 ได้นำเสนอคุณสมบัติที่แตกต่างออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่, การบริหารจัดการ iLO 5 ที่เป็นไปอย่างราบรื่น ตลอดจนมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
 
ProLiant DL380 ของ Hewlett Packard Enterprise ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายชื่อผู้ขายที่ดีที่สุด - และด้วยเหตุผลที่ดีเหล่านี้ จึงถูกจัดให้เป็นเซิร์ฟเวอร์แร็คที่มีความสามารถมากที่สุด มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่มันไม่สามารถทำได้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่น้อยมาก และมีเฉพาะเราเท่านั้นที่จะนำมาเสนอให้คุณเป็นคนแรก โดยตัดสินใจลงมือทำการรีวิว Flagship ของ Gen10 รุ่นใหม่ จาก HPE
 
ยังมีส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เกี่ยวกับการสนับสนุนการทำงานสำหรับซีพียูในตระกูล Intel Xeon Scalable, CPU DL380 Gen10 ที่ได้รับการรีเฟรชอย่างสมบูรณ์ในหมวดของการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการออกแบบใหม่ที่มีการดีไซน์แยกออกแบบเป็นส่วนๆ โดยที่อุปกรณ์ควบคุมการทำงาน Smart Array RAID ของ HPE ยังได้รับการปรับปรุงเพื่อให้มีทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลและอินเตอร์เฟสที่มากขึ้น
 
เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีความสามารถในการรองรับ DDR4 SmartMemory ได้สูงถึง 3.0 TB และยังสามารถรองรับหน่วยความจำแบบถาวร (Persistent Memory) ของ HPE แบบ NVDIMMs (Non-Volatile Dual In-line Memory Modules) ได้ถึง 192GB ซึ่งเหล่านี้ ต่างก็ถูกจัดลำดับให้เป็นแอพพลิเคชั่นที่มีความต้องการสูง ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์หรือการใช้ฐานข้อมูล (Databases) และ DRAM ซึ่งเป็นหน่วยความจำสำรองที่มีประสิทธิภาพสูง ขนาด 8GB โดยได้รับการสนับสนุนจากแฟลชขนาด 8GB ติดตั้งอยู่บนโมดูล DIMM ที่เป็นฟอร์มแฟกเตอร์ (Form Factor) รูปแบบมาตรฐาน
 
และที่นอกเหนือไปกว่านั้น ยังรวมถึงตัวควบคุมการจัดการ iLO 5 ใหม่ ของ HPE ซึ่งนำเสนอคุณลักษณะพิเศษใหม่ๆ อีกมากมาย ที่มาพร้อมกับการตรวจสอบสถานะการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ให้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม ด้วย Silicon Fingerprinting, การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) และเทคโนโลยีการตรวจจับการโจมตีในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้นหรือที่เรียกว่า Breach Detection
 




Storage
สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ เราให้ความสำคัญไปที่ Performance model 826556-B21 ของ HPE ซึ่งเป็นการจับคู่กันของซีพียู 12-core 2.3GHz Intel Xeon Gold 5118 ให้ทำงานร่วมกันกับหน่วยความจำแบบ DDR4 ขนาด 64GB ถ้าพิจารณาอย่างคร่าวๆ จะเห็นได้ว่า HPE ยังคงมีรูปแบบการกำหนดค่าไดร์ฟ 8 + 8 + 8 ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับไดร์ฟ SFF ได้สูงสุด 24 ช่อง
 
คุณสามารถปรับแต่งเพิ่มด้วยชุด Universal Media ของ HPE โดยติดตั้งลงในช่องใส่ไดร์ฟที่อยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งประกอบด้วย USB3.0 แบบ Dual พอร์ต, ออฟติคอลไดร์ฟ (Optical Drive) ที่เพิ่มในส่วนของ DisplayPort และพื้นที่ว่างสำหรับเพิ่มไดร์ฟ SFF ได้ 2 ช่อง ด้านล่าง ยังมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้ที่เกิดขึ้นที่ด้านหลัง: คุณสามารถเพิ่ม SFF Hot-Swap Cages แบบ Dual ได้อีก 3 ชุด ซึ่งรวมแล้วสามารถรองรับได้สูงสุดถึง 30 ช่อง
 
Chassis ที่ใช้สำหรับ SFF ยังสามารถใช้เพื่อรองรับ HPE Persistent Memory NVMe ได้มากถึง 20 ช่อง หากความต้องการทางด้านสมรรถนะ (Capacity) เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก มันสามารถที่จะใช้ช่องสำหรับบรรจุไดร์ฟ LFF จำนวน12 ช่องที่อยู่ในส่วนของด้านหน้า, 3 ช่อง ที่ด้านหลัง และแม้กระทั่งตรงกลางที่สามารถบรรจุได้อีก 4 ช่อง โดยใช้ชุด Midplane HDD Kit ที่กำหนดเองของ HPE
 
โมเดลทุกรุ่น เริ่มต้นด้วย Smart Array S100i ที่ควบคุมด้วย Embedded Chips ของ HPE ซึ่งรองรับกับการเชื่อมต่อ RAID 0, 1, 5 และ 10 สำหรับรองรับไดร์ฟแบบ SATA สูงสุด 14 ชุด นอกจากนี้เซิร์ฟเวอร์ของเรายังมี Smart Array P408i-a Snap-In Module ซึ่งมาพร้อมกับ SAS3 ที่เพิ่มหน่วยความจำที่ใช้สำหรับป้องกันแฟลช ขนาด 2GB เพื่อความสมดุลในการจัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้ HPE ยังนำเสนอโมเดลอื่นๆ ที่มีขนาดของหน่วยความจำที่แตกต่าง รวมถึงช่องเสียบที่เป็น External Ports ที่มีเพิ่มขึ้นจากจำนวนปกติ


ที่มา: 
www.itpro.co.uk
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์