เปิดตัว HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack (Gen 10) กับอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Hybrid

Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศเปิดตัว HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack (Gen 10) โซลูชั่น HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack ซึ่งเป็นเน็กซ์ เจเนอเรชั่นของ HPE ProLiant ที่ให้พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลและหน่วยความจำแคชที่เพิ่มมากขึ้น, พร้อมด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับ สภาพแวดล้อมของระบบคลาวด์ เพื่อบรรลุผลการปฏิบัติงานที่เหนือกว่าจากโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กร ( On-premise )

สำหรับ Hybrid Cloud ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ได้ร่วมออกแบบโดย HPE และ Microsoft เพื่อให้บริการแก่คู่ค้า เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจต่าง ๆ ง่ายต่อการพัฒนา บริหารจัดการ และได้รับประสบการณ์การรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับบริการ Azure public cloud service ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโซลูชั่น "Hybrid Cloud" ที่ผสมผสานการทำงานระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud แบบครบวงจร โดยกำหนดให้ใช้งานร่วมกับ Azure ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้บริการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IaaS)) และ การให้บริการด้าน Platform (PaaS) บนฮาร์ดแวร์ HPE

ในขณะที่ระบบคลาวด์แบบสาธารณะ (Public Cloud) ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนั้น หลายๆองค์กรจะต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่ว่า ภาระงานบางอย่างเหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะภายในองค์กรมากขึ้น ซึ่ง HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack จะช่วยให้องค์กรธุรกิจของคุณสามารถรักษาอธิปไตยของข้อมูล (Data Sovereignty) รวมถึงการเรียกใช้งานการวิเคราะห์ที่ให้ประสิทธิภาพสูง สำหรับชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และแอพพลิเคชั่นแบบ Low-latency นอกจากนี้ยังรองรับ EDGE และแอพพลิเคชั่นแบบ Disconnected และสามารถปรับใช้แอพพลิเคชั่นได้อย่างเหมาะสมเพื่อไปยัง Azure public cloud หรือ Azure Stack สำหรับการทำงานในรูปแบบ On-premise

อ้างอิงจาก เซิร์ฟเวอร์ HPE DL380 10 เป็นหลัก, สำหรับ HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack (Gen 10) ที่มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยการลดความยุ่งยากในการใช้งานด้านไอที รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผล ซึ่งขณะนี้ลูกค้าสามารถสัมผัสกับคุณประโยชน์ของระบบคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ได้แล้ว กับแพ็กเกจที่สามารถปรับใช้งานได้ในรูปแบบ On-premises

HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack มอบคุณประโยชน์สำคัญ 3 ประการ ดังนี้

1.ความเชี่ยวชาญด้านระบบคลาวด์แบบไฮบริด (Hybrid cloud)
HPE นำเสนอ Hardware Platform ที่สามารถกำหนดค่าได้มากที่สุด มาพร้อมกับความเชี่ยวชาญ โดยช่วยให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นและใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการทำงานของ HPE Pointnext ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากการวางแผน, การโยกย้าย รวมทั้งใช้ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานเพื่อการออกแบบและเลือกใช้โซลูชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของพวกเขา

2.มีการกำหนดราคาในรูปแบบของการจ่ายตามปริมาณการใช้งาน
สำหรับ HPE GreenLake Flex Capacity, ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากระบบ Cloud ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจขององค์กร โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานภายในองค์กรที่มีการใช้งานในปัจจุบัน รวมไปถึงบัฟเฟอร์ที่จะเติบโตขึ้นและจะต้องจ่ายก็ต่อเมื่อมีการใช้งานจริง

3.ประสิทธิภาพ
HPE OneView ทำหน้าที่เป็น Automation Engine ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของโซลูชั่น HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack ได้อย่างใกล้ชิด ด้วยการทำงานของ แดชบอร์ดที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ลูกค้าสามารถเรียกดูข้อมูลสถานะและการแจ้งเตือนได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเครื่องมือในการติดตามและบำรุงรักษาโซลูชั่นของพวกเขาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์

HPE ProLiant for Microsoft Azure Stack เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างตัวเลือกการกำหนดค่าที่มีความยืดหยุ่นและการบริหารจัดการที่เข้าใจง่ายจาก HPE OneView นอกจากนี้ HPE ProLiant ยังจัดว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ Azure Stack ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อการใช้งานภายในองค์กร

ที่มา: community.hpe.com