HPE ProLiant ML350 Gen10 (G10) Server สุดยอดแห่งความคุ้มค่า

HPE ProLiant ML350 Gen10 จัดได้ว่าเป็น Tower เซิร์ฟเวอร์ ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของ Hewlett Packard Enterprise ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับการติดตั้ง Intel Scalable Processor จำนวน 2 ตัว เพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุด 3TB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกมากมาย เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กจนถึงธุรกิจขนาดกลาง, ธุรกิจขนาดใหญ่และศูนย์ข้อมูล นับว่าเป็นโซลูชั่นสำหรับองค์กร ด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพระดับสูงสุดและความเงียบขณะทำงานของเซิร์ฟเวอร์ จึงเหมาะสำหรับ Front Office หรือการปรับใช้งานการควบคุมระยะไกลภายในสำนักงาน

รายละเอียดของ HPE ProLiant ML350 Gen10
HPE ProLiant ML350 Gen10 ใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์ที่สามารถปรับขนาดได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 71% และเพิ่มขึ้น 27% จากการเพิ่มจำนวนแกน (Core counts) จัดว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 4 Double Width GPUs สำหรับการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Desktop Infrastructure หรือ VDI) มีค่าความหนาแน่นของข้อมูล หรือเพื่อรองรับ Workloads ด้านกราฟิกที่ต้องการความละเอียดสูง มีตัวเลือกสำหรับช่องจัดเก็บที่สามารถรองรับได้ถึง 8 ไดร์ฟ สำหรับ NVMe Solid State Drives (NVMe SSD) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระดับสูงสุดและความยืดหยุ่นในการใช้งาน ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบ Tower นี้ยังสามารถติดตั้งในลักษณะ Rack mount ด้วยชุดอุปกรณ์ที่จะช่วยแปลงการติดตั้งแบบ Tower เป็นแบบ Rack ซึ่งสนับสนุนทั้งเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้และ HPE ProLiant ML110 Gen10

ประสิทธิภาพการทำงานของ HPE ProLiant ML350
คุณสามารถเลือกทำการติดตั้งโปรเซสเซอร์ Intel Scalable ได้ตั้งแต่หนึ่งหรือสองตัว โดยเลือกจากรุ่นของซีพียู ซึ่งเรียกตามระดับของประสิทธิภาพ คือ บรอนซ์, ซิลเวอร์, โกลด์ หรือแพลทินัม ที่สามารถเพิ่มการติดตั้งโปรเซสเซอร์ ได้สูงสุด 28 cores ซึ่งแต่ละตัวสามารถรองรับการใช้งาน Memory ได้ถึง 6 ช่อง แต่เพื่อรองรับความจุทั้งหมดของหน่วยความจำขนาด 3TB จำเป็นที่จะต้องใช้โปรเซสเซอร์ Scalable ที่มีการระบุอักษร "M" ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับหน่วยความจำได้สูงสุด 1.5 TB ต่อ Socket เนื่องจากโปรเซสเซอร์ที่ไม่มีอักษร "M" สามารถรองรับได้เพียง 768 GB ต่อ Socket เท่านั้น ซึงในส่วนของ Turbo Boost และ Intel Hyper-Threading อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับโปรเซสเซอร์ในบางรุ่น สำหรับ Power ที่เป็น Hot Plug ก็มีให้เลือกระหว่าง 500W, 800W หรือ 1600W Flex Slot Power Supply ทั้งในรูปแบบ Redundant หรือ Non-redundant Power Supply

Memory
SmartMemory DDR4 2666MHz ของ HPE ให้ประสิทธิภาพในการทำงานได้มากกว่าโมดูลหน่วยความจำขนาด 2400MHz ถึง 11% มีช่องเสียบหน่วยความจำทั้งหมด 24 ช่อง บนเมนบอร์ด ซึ่งโปรเซสเซอร์แต่ละตัวจะกำหนดให้มีช่องเสียบหน่วยความจำที่ 12 ช่อง ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น โปรเซสเซอร์แต่ละตัวจะสามารถรองรับการใช้งาน Memory ที่ 6 ช่อง ซึ่งแต่ละชุดจะสามารถรองรับหน่วยความจำได้สองโมดูล เมื่อต้องการเปิดใช้งานหน่วยความจำที่รองรับได้สูงสุด 3TB จำเป็นที่จะต้องใช้ CPU ที่เหมาะสม ซึ่งมีการระบุอักษร "M" และโมดูลหน่วยความจำแบบ Load Reduced DIMM ( LRDIMM ) ขนาด 128GB ในขณะที่การใช้โมดูลหน่วยความจำแบบ Registered DIMM (RDIMM) จะสามารถรองรับได้สูงสุด 768GB โดยใช้โมดูลหน่วยความจำ 32GB ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 2400MHz ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่สนับสนุนการคละประเภทของหน่วยความจำแบบ LRDIMMs และ RDIMMs

Storage
การจัดเก็บข้อมูลบนแพลตฟอร์ม HPE ML350 Gen10 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความสามารถในการรองรับการทำงานสูงสุด 24 x SAS/SATA HDD หรือ SSD 2.5 นิ้ว และนอกจากนี้ยังสามารถรองรับและเพิ่มได้ถึง 8 X SFF/ NVMe PCIe drives การกำหนดค่าของ Chassis ที่ 2.5 นิ้ว ก็เพื่อรองรับค่าเริ่มต้นของ Drive Cage โดยสัดส่วนที่เล็กที่สุดที่ Chassis สามารถรองรับ Drive Bay ได้ คือ 8 x 2.5 นิ้ว นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้ง Drive Cage เพิ่มได้อีก 2 อัน ซึ่งแต่ละ Cage สามารถรองรับไดร์ฟขนาด 8X 2.5 นิ้ว รวมทั้งหมดแล้วสามารถติดตั้งฮาร์ดดิสก์ ขนาด 2.5 นิ้ว ได้ทั้งหมด 24 Bays สำหรับไดร์ฟ NVMe นั้น สามารถรองรับเฉพาะบน Chassis ที่มีขนาด 2.5 นิ้ว และต้องได้รับการติดตั้งใน Express Bay Drive Cage ที่เป็นศูนย์ติดตั้งอุปกรณ์เสริม ซึ่งอุปกรณ์ติดตั้ง NVMe จะประกอบด้วย 4 Direct Attached PCIe NVMe riser boards จำนวน 2 ชุด ซึ่งแต่ละชุดสามารถรองรับไดร์ฟได้ 4 ไดร์ฟ หรือรวมทั้งหมด 8 ไดร์ฟ เมื่อมีการติดตั้ง Riser รวมทั้งสองชุด นอกจากนี้ยังมีการกำหนดค่า Chassis ที่รองรับการติดตั้ง Drive Bay ขนาด 3.5 นิ้ว จากทางด้านหน้าได้ทั้งหมดรวม12 ไดร์ฟ ซึ่งการกำหนดค่า Chassis ที่มีขนาด 3.5 นิ้ว นั้น มีความคล้ายคลึงกันมากโดยแยก Drive Cages ออกเป็นสามส่วน ซึ่งแต่ละตัวสามารถรองรับไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้วได้ 4 ไดร์ฟ รวมทั้งหมด 12 ไดร์ฟ

ในการกำหนดค่าต่างๆ สามารถทำได้โดยใช้แผงควบคุมที่อยู่ด้านบนสุด ซึ่งประกอบไปด้วย System Health LED, NIC Status LED, USB 3.0 X 2 พอร์ต และ พอร์ตสำหรับ iLO Service โดยเฉพาะ ในส่วนของฝาด้านหน้านั้น จะมีกุญแจล็อคเพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งจัดเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานในระบบนี้ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบการ์ด MicroSD เพียงช่องเดียว ซึ่งอยู่ถัดจาก PCIe slots (จำนวน 5-8 ช่อง ) ที่ด้านล่างของ Power Supply การจัดการฮาร์ทไดรฟ์คือการผสมผสานระหว่าง HPE Smart Array S100i SR Gen10 และการจัดการ RAID โดยใช้ Software ( SW RAID ) เข้าด้วยกัน ในส่วนของไดรฟ์ M.2 ที่รองรับการติดตั้งโดย Universal Enablement Card Kit และจำกัดเพียง PCIe slots ลำดับที่ 1-4 นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการติตั้ง Enablement Kit ได้ทั้งหมดเพียงชุดเดียว ซึ่ง M.2 สามารถรองรับการจัดการ RAID โดยใช้ Softwareเท่านั้น โดยในการกำหนดคุณสมบัติของอุปกรณ์เหล่านี้ บางส่วนอาจจำเป็นต้องใช้ชุดของ Redundant Fan Kit

Expansion
PCIe 3.0 จำนวน 8 ช่อง มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จำนวนมากเพื่อรองรับ Workload ของคุณ โดย PCIe slots ช่องที่ 1-4 ที่อยู่ด้านหลังในส่วนล่างของตัวเครื่อง ได้รับการสนับสนุนการทำงานโดย CPU ตัวที่ 1 โดยสล็อตที่ 1 และ 3 สามารถรองรับการติดตั้ง GPU เสริม, ส่วน PCIe slots ช่องที่ 5-8 ทำงานได้ด้วยการเพิ่มโปรเซสเซอร์ตัวที่สอง โดยมีสล็อตช่องที่ 5 และ 7 ที่สามารถรองรับการติดตั้ง GPU เสริม คุณสามารถติดตั้ง Graphics Processing unit (GPU) แบบ Double-width ได้ถึง 4 ตัว เช่น Nvidia P4000, P6000 และ Tesla P40 มีเพียงแต่ โมดูล GPU รุ่น Tesla M10 quad จาก Nvidia เท่านั้นที่ใช้เพียงแค่สองตัว นอกจากนี้ยังมีพอร์ตอีเทอร์เนต 1-Gb จำนวน 4 พอร์ต อยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง แต่คุณสามารถเลือกเชื่อมต่อเครือข่ายที่หลากหลายเหล่านี้ ด้วยอัตราการส่งถ่ายข้อมูลที่ความเร็ว 1GbE, 10GbE, 10 / 25GbE และ 100GbE QSFP เช่นเดียวกันสำหรับ Smart Array HDD / RAID controllers ที่ต่างก็มีออฟชั่นที่หลากหลายมาให้คุณได้เลือก

การจัดการของระบบ
คุณสามารถจัดการระบบได้อย่างง่ายดาย ด้วยชุดเครื่องมือการจัดการของ HPE โดยรวมถึง HPE Integrated Lights Out (iLO) ที่เป็นระบบจัดการ server ของ HPE ซึ่งเป็นการจัดการขั้นสูงสำหรับระบบ Out-of-band นอกจากนี้ยังมี HPE OneView ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้เครื่องมือในการจัดการได้มากยิ่งขึ้น สำหรับโครงสร้างพื้นฐานแบบผสมผสาน รวมถึงระบบการรักษาความปลอดภัยบนเซิร์ฟเวอร์ในรุ่น Gen10 ทั้งหมด ยังได้รับการอัพเดตด้วย Runtime Firmware Validation ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ iLO Advanced Premium Security Edition สำหรับการกู้คืนข้อมูลที่มีความปลอดภัย จะช่วยให้คุณสามารถทำการย้อนกลับไปเป็นเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นล่าสุด ที่ยังไม่ถูกบุกรุก

บทสรุปของ HPE ProLiant ML350
HPE ProLiant ML350 เป็นเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบของ Tower ที่นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับองค์กรธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าของสำนักงาน, สำนักงานสาขา หรือการติดตั้งในลักษณะ Rack mount ในห้องเซิร์ฟเวอร์ของคุณ และเมื่อธุรกิจของคุณเริ่มที่จะขยายใหญ่ขึ้นจนเกินข้อจำกัด ในส่วนของ ML350 Gen10 ที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถรองรับการติดตั้ง Processor จำนวน 2 ตัว ได้สูงสุด 28 cores (ต่อ CPU) และยังรองรับหน่วยความจำสูงสุด 3TB และความจุสูงสุดถึง 184TB โดยใช้ไดรฟ์ SFF

ที่มา: www.itcreations.com