VMware Explore 2023 ได้ขยายไปสู่ระบบเครือข่ายคลาวด์และการรักษาความปลอดภัยแล้ว

VMware Explore 2023 Extends Into Cloud Networking And Security

ในปีนี้ งาน VMware Explore 2023 ระดับโลกได้เริ่มต้นขึ้นที่ลาสเวกัส โดยมีแผนจัดการประชุมระดับภูมิภาคสำหรับบาร์เซโลนา สิงคโปร์ เซาเปาโล และโตเกียวในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงนี้ มีประกาศจำนวนหนึ่งเที่เราพบว่าน่าสนใจในงานที่สหรัฐอเมริกา เราจึงอยากจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของเรา โดยเฉพาะเรื่องที่เราเชื่อว่า VMware สามารถปรับปรุงระบบในบางด้านเพื่อแข่งขันให้ได้ส่วนแบ่งในกระเป๋าเงินที่มากขึ้น โดยเฉพาะกับบริษัทในตลาดกลาง มาเจาะลึกไปพร้อมกันเลย

การประกาศด้านเครือข่าย

VMware NSX เป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ (SaaS) บนเครือข่ายคลาวด์ของบริษัท ซึ่งรวมการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้นโยบาย การดำเนินงาน และระบบอัตโนมัติมีความสอดคล้องกันในสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ โดยที่งาน VMware Explore บริษัทได้ประกาศข้อเสนอการให้บริการจัดการระบบคลาวด์ใหม่ล่าสุด ได้แก่ NSX+

ตามชื่อที่บอกเลย NSX+ ให้การปรับปรุงเพิ่มเติม รวมถึงการสนับสนุนการจัดการนโยบายระดับโลก การปรับปรุงการมองเห็นเครือข่ายและแอปพลิเคชัน และให้การควบคุมการเข้าถึงที่สม่ำเสมอผ่านการคลิกเพียงครั้งเดียว ในมุมมองด้านความปลอดภัย NSX+ จะรวมความสามารถในการตอบสนองต่อการตรวจจับเครือข่ายของ VMware (NDR) และ Carbon Black endpoint security เข้าไว้ในบริการเดียว สิ่งๆ นี้มีศักยภาพที่ช่วยให้การจัดการง่ายขึ้นและเพิ่มความปลออดภัยให้มากขึ้น โดยการใช้หลักการแบบ Zero Trust ทั่วทั้งอินสแตนซ์แบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ การรวมเครือข่ายและความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ NSX+ คือความสามารถในการดำเนินการผ่าน AWS Microsoft Azure และแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเครือข่ายและความปลอดภัยเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือการเปิดตัว NSX+ virtual private cloud (VPC) ของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกในการแยกเครือข่ายความปลอดภัย และบริการที่อยู่ติดกันได้อย่างสมบูรณ์ การปรับปรุงนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันผลกระทบต่อผู้เช่ารายอื่นเป็นหลัก ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ทีมพัฒนาและแอปพลิเคชันสามารถเลือกทรัพยากรคลาวด์ที่เหมาะสมที่สุดตามความต้องการของแอปพลิเคชัน เราชอบความความคล่องตัวและศักยภาพของ VPC ในการเร่งสร้างนวัตกรรมของผู้พัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแอปพลิเคชันและประสบการณ์ของผู้ใช้ปลายทางที่ดีขึ้น

ในที่สุด VMware ก็ได้ประกาศความพร้อมใช้งานเบื้องต้น VMware Private Mobile Network Service ซึ่งเป็นบริการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือส่วนบุคคลสำหรับองค์กรธุรกิจ VMware จะให้บริการเลเยอร์การประสานและระบบคอร์ทั้ง 4G และ 5G เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการ โดยรวมการบูรณาการในสภาพแวดล้อมไอทีที่มีอยู่ในองค์กรและระบบคลาวด์ บริษัทกำลังร่วมมือกับ Federated Wireless อย่างชาญฉลาดในฐานะหนึ่งในพันธมิตรที่เริ่มต้นในการสร้างและดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายการเข้าถึงวิทยุภายในองค์กรที่จำเป็นแบบ 4G และ 5G ซึ่งครอบคลุม Citizens Broadband Radio Service (CBRS) และคลื่นความถี่ที่ได้รับอนุญาตแบบส่วนตัว นอกจากนี้ Federated Wireless ยังได้แสดงให้เห็นถึงประวัติที่แข็งแกร่งในด้านเครือข่ายส่วนตัวและคาดว่าจะช่วยเร่งการนำบริการใหม่นี้ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดูเหมือนว่า VMware ได้เข้าสู่พื้นที่เครือข่ายส่วนตัวไว้ได้ดี แต่เราสงสัยว่าบริษัทจะเข้ามาในตลาดช้าเกินไปหรือไม่ เนื่องจาก Cisco, Cradlepoint และ Nokia ต่างก็มีข้อเสนอด้านเครือข่ายส่วนตัวที่สมบูรณ์ และเป็นผู้นำในการนำไปใช้ในตลาดเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ VMware จึงต้องสร้างกรณีที่ชัดเจนเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด

การประกาศด้านความปลอดภัย

โซลูชันการบริการ Ransomware Recovery ของ VMware เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดยพื้นฐานแล้วมันช่วยอำนวยความสะดวกให้กับขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติที่แยกสภาพแวดล้อมการกู้คืนในระบบคลาวด์เพื่อป้องกันการติดไวรัสซ้ำ ในปีนี้ที่งาน VMware Explore บริษัทได้ประกาศการปรับปรุงที่จะขยายการป้องกันและเร่งการกู้คืนที่เร็วขึ้น ส่วนการสนับสนุนใหม่สำหรับการดำเนินการกู้คืนเครื่องหลายเสมือน (VM) ที่เกิดขึ้นพร้อมกันมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของโซลูชันนอกจากนี้ การผลิต VM ยังสามารถทำงานในระบบคลาวด์ระหว่างการวิเคราะห์เชิงคณิตวิทยาก่อนที่การผลิตเวิร์กโฟลว์จะกลับมาภายในองค์กร ทั้งหมดนี้น่าสนใจมาก แต่ดูซับซ้อนเมื่อเทียบกับบริษัทสตาร์ทอัพ Airgap Networks ซึ่งมี Ransomware Kill Switch ที่ดูตรงไปตรงมามากกว่า ซึ่งได้รับการจัดการด้วยระบบคลาวด์และไม่จำเป็นต้องใช้ตัวแทนในระบบปลายทาง

Extended Detection and Response (XDR) ถือเป็นกลุ่มยอดนิยมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในขณะนี้ และที่งาน VMware Explore นี้บริษัทก็ได้ประกาศความก้าวหน้าในการนำเสนอ XDR ผ่านทาง Carbon Black ในระดับที่สูงขึ้น ความสามารถในการขยายใหม่ของผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปใช้กับความปลอดภัยของแอปพลิเคชันแบบ cloud-native ซึ่งช่วยให้การมองเห็นและการการควบคุมภายในสภาพแวดล้อมแอปพลิเคชันที่ทันสมัยโดยใช้ประโยชน์จากคอนเทนเนอร์และโครงสร้างไมโครเซอร์วิส ลักษณะแบบไดนามิกของสภาพแวดล้อมเหล่านี้และจุดบอดที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับการแทรกซึมของผู้ไม่ประสงค์ดี ดังนั้น VMware จึงฉลาดที่จะจัดการกับข้อกังวลนี้ โดยคาดว่าจะวางจำหน่าย XDR ในรูปแบบทั่วไปภายใน 6 เดือนข้างหน้า

ข้อสรุป

จากจุดยืนด้านเครือข่ายและความปลอดภัยที่ VMware Explore มีหลายสิ่งที่ต้องแสดงให้เห็นในปีนี้
วิสัยทัศน์ “North Star” ของบริษัท (ซึ่งเป็นชื่อรหัสโครงการสำหรับ NSX+) มอบแพลตฟอร์มเดียวที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานแบบมัลติคลาวด์ ตลอดจนการดำเนินการด้านเครือข่ายและความปลอดภัยผ่านโครงสร้างนโยบายที่สอดคล้องกัน นั่นเป็นข้อเสนอคุณค่าที่น่าสนใจ แต่ก็แลกเปลี่ยนมาด้วยต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ที่สูงกว่าแบบดั้งเดิมของ VMware ทั้งยังมีความซับซ้อนที่มากขึ้น และช่วงการเรียนรู้ที่สูงลิ่วสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านไอที และความต้องการทรัพยากรการประมวลผลที่มากขึ้นตามที่ VM แนะนำ หาก VMware สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้ ก็อาจขยายการแสดงตัวตนในตลาดได้ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดเล็กที่ขาดทักษะเชิงลึกและใช้โมเดลการจัดพนักงานไอทีที่เบากว่า จากมุมมองของเรา การเข้าสู่ตลาดระดับกลางเป็นโอกาสที่เหมาะสำหรับการเก็บเกี่ยว

ที่มา: https://bit.ly/48rUZHW
สนใจสั่งซื้อสินค้า Software คลิกที่นี่ >> https://www.quickserv.co.th/software.html