วิธีเสริมประสิทธิภาพด้วย Hyperconverged ตัวช่วยลดทรัพยากร แต่ไม่ลดคุณภาพ
Please wait...
1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
ENTERPRISE IT UPDATE
วิธีเสริมประสิทธิภาพด้วย Hyperconverged ตัวช่วยลดทรัพยากร แต่ไม่ลดคุณภาพ



Peter Drucker ที่ปรึกษา นักวิชาการศึกษา และนักเขียนที่มีชื่อเสียงระดับโลกกล่าวว่า “ประสิทธิภาพคือการทำสิ่งต่างๆ อย่างถูกต้อง ประสิทธิผลก็คือการทำสิ่งที่ถูกต้อง” เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานด้าน ITการทำสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งหมายถึงการปรับปรุงให้ IT มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการทำเช่นนั้นการจัดระเบียบด้าน IT จะสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ การทุ่มเททรัพยากรที่มากขึ้นในการทำกิจกรรมเชิงกลยุทธ์แต่ไม่ใช่การทำอะไรแบบขาดระเบียบ ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ ฝ่าย IT จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่เราทำ ไม่ได้ทำให้เสียคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องนั่นเอง
 

ดังนั้นจึงเกิดคำถามในใจขึ้นว่า? คุณจะตัดความซับซ้อนได้อย่างไรโดยไม่ต้องลดคุณภาพ ?  เพราะตามที่บางทีม IT บางแห่งพบว่าการนำเอาระบบ โครงสร้างพื้นฐานแบบ Hyperconverged มาใช้ เป็นขั้นตอนที่มั่นคงในทิศทางที่ถูกต้อง


Hyperconverged Infrastructure สามารถทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ใช้ เทคโนโลยี Hyperconverged Infrastructure มาใช้ ต่างก็ตระหนักถึงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 81 ในเวลาที่ใช้ในโครงการ และนวัตกรรมใหม่ ๆ นอกจากนี้ธุรกิจเหล่านี้ยังเห็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 ในงบประมาณที่ใช้ในโครงการด้านเทคโนโลยีและการซื้อใหม่หลังจากการใช้ เทคโนโลยี Hyperconverged Infrastructure นี่ไม่ใช่กรณีของการลดการทำงานให้น้อยลง แต่จะทำเพียงแค่ “ให้ทุกอย่างดำเนินต่อไป” ในขณะเดียวกันก็เป็นการส่งมอบคุณค่าให้กับธุรกิจมากขึ้น




เทคโนโลยี Hyperconverged Infrastructure ส่งผลให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพในการดำเนินงานเฉพาะทาง โดยการรวม 8 ถึง 12 ที่เป็นองค์ประกอบและบริการด้านไอที ที่แตกต่างกันลงในโซลูชันเดียว ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ทีม IT สามารถมุ่งเน้นที่จะเร่งสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ โดยการลดความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที  นอกจากนี้ Hyperconverged Infrastructure ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวด้าน IT และเวลาในการผลิต ลดต้นทุนด้าน IT และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน และยังช่วยลดความเสี่ยงด้วยความยืดหยุ่นขององค์กร และนอกจากนี้ยังเป็นการปกป้องข้อมูลไปในตัว


จากผลการสำรวจลูกค้า พบว่า การปฏิบัติงานด้าน IT ของพวกเขามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อมีการนำระบบ Hyperconvergence ไปดำเนินงาน ผู้ดูแลระบบไอทีรายหนึ่งอธิบายเพิ่มเติมว่า “เราพบว่าโครงสร้างพื้นฐานนี้ทำงานได้ง่ายและเนื่องจากมีความซับซ้อนน้อยลง มีสินค้าคงคลังและทรัพย์สินที่ต้องจัดการน้อยลง จึงช่วยให้เราสามารถทำงานในส่วนอื่น ๆ ที่เราไม่เคยได้มีเวลาทำมาก่อน” นอกจากนี้ลูกค้ายังสังเกตเห็นด้วยว่า “มีการลดลงอย่างมากกับค่า IOPS ภายใต้สภาพแวดล้อมของเรา”


จากรายงานของ ผู้เขียนบทความ Eric Sheppard ผู้ดำรงตำแหน่ง Research Director ของ IDC Corporation กล่าวว่า “ลูกค้ากล่าวกับเราว่า การลดความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจและ การสนับสนุนเป้าหมายทางด้านรายได้ของธุรกิจ เป็นสองผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สำคัญที่สุด ที่สามารถทำได้โดยผ่านการใช้งานด้าน IT ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่รู้ว่า หน่วยงานด้าน IT กำลังมองหา โครงสร้างพื้นฐาน ที่ช่วยเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ทรัพยากร ในขณะที่จัดการกับการเพิ่มผลผลิตและความคล่องตัวภายในศูนย์ข้อมูลมากขึ้น ซึ่งองค์กรทั่วโลกก็ได้หันมาใช้ระบบ converged เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”


ลูกค้าที่เข้าร่วมในการศึกษาทั้งหมด มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือพวกเขาเลือก HPE SimpliVity ที่ขับเคลื่อนโดย Intel® ในฐานะผู้จัดจำหน่าย Hyperconverged ที่พวกเขาเลือก HPE SimpliVity โดดเด่นกว่าคู่แข่งขัน ด้วยความสามารถในการจัดการทรัพยากรและปริมาณงานทั้งหมดจาก single interface และฟีเจอร์สองอย่างที่มีความโดดเด่นในผลสำรวจของลูกค้า นั่นคือฟีเจอร์ built-in data protection และ accelerated data efficiency นอกจากนี้ IDC ยังพบว่าลูกค้าไม่เพียงแต่ประหยัดเวลา โดยการใช้ฟีเจอร์ backup และ replication ของ HPE SimpliVity เท่านั้น แต่ผู้ที่ใช้ยังสามารถที่จะถอนการทำงานของโซลูชั่น third-party data protection สำหรับ HPE SimpliVity  workloads โดยจากการสำรวจพบว่า
 

- กว่า 50% ของลูกค้า HPE SimpliVity ที่ใช้ฟีเจอร์ third-party built-in data protection จะเลิกใช้การสำรองข้อมูลและหรือการ Replication

- 79% ของลูกค้าเห็นพัฒนาการที่สำคัญ ในกระบวนการสำรองข้อมูล และการกู้คืนระบบ เนื่องจากฟีเจอร์ Deduplication และ Replication ทั่วโลกและลดเวลาในการทำ RTO / RPO ลงอย่างมาก

- 75% ของลูกค้าตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นถึง 65%

 

ลูกค้าสร้างกรณีที่น่าสนใจว่า HPE SimpliVity hyperconverged infrastructure มีประสิทธิภาพในการทำสิ่งที่ถูกต้องและผลิตผลลัพธ์ที่ตรงตามที่ IDC ระบุว่า “Hyperconverged ระ บบ scale-out และ ระบบ feature-rich กำลังขับเคลื่อนประโยชน์ที่แท้จริงภายในศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ CAPEX และที่สำคัญกว่านั้น คือ OPEX”  


ที่มา : https://community.hpe.com
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์