1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเซิร์ฟเวอร์
ธุรกิจขนาดเล็กตื่นตัวมากขึ้นในปี 2016 นั่นคือ “ทำให้รู้จักลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม” บริการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Service) ช่วยให้ส่วนใหญ่เข้าใจรูปแบบของลูกค้า สามารถกำหนดผู้เยี่ยมชมเข้าถึงทางออนไลน์และเชื่อมต่อลูกค้าเข้ากับร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงได้ ไม่ว่าคุณจะซื้อสินค้าที่ไหน
ปัจจุบันผู้ประกอบการมีเครื่องมือช่วยให้รู้ว่าคุณเป็นใครและรู้สิ่งที่คุณต้องการซื้อมากขึ้นกว่าแต่ก่อน สิ่งที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งเหล่านั้นก็อาจทำให้หลายคนผิดหวังและมีความวิตกกังวล ธุรกิจหลายองค์กรเหล่านี้ตกหลุมพรางได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากระบบคลาวด์ เนื่องจากช่องว่างระหว่างทักษะด้านไอทีที่หายากกับทางเลือกการตั้งค่าระบบคลาวด์ที่มีทางเลือกมากมาย
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยาก แม้กระทั่งธุรกิจขนาดเล็กที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีสูงก็ดิ้นรนขวนขวาย ซึ่งพวกเขาพลาดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยรายทาง
หลักฐานชี้ชัดว่าหลายธุรกิจขนาดเล็กไม่พึงพอใจ ผู้ประกอบการบางส่วนรู้สึกไม่แยแสและหันกลับไปใช้ระบบดั้งเดิม ตามเอกสาร AMI-Partners (PDF) รายงานว่า 18 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจขนาดเล็กได้ยกเลิกสัญญาระบบคลาวด์อย่างน้อย 1 สัญญาในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อที่จะกลับไปใช้โซลูชันวางระบบภายในองค์กร (on-premise) แทน
“สิ่งที่เราพบก็คือเมื่อคุณมีพนักงานมากกว่า 300 คนในองค์กร หน้าที่ขององค์กรธุรกิจ (businesses function) ก็จะมีลักษณะเหมือนกันกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องบริโภคและซื้อสินค้าไอที” กล่าวโดย McLeod Glass รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจเซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กของ Hewlett-Packard Enterprise
“ด้วยเหตุนั้นจำเป็นต้องใช้วิธีการที่แตกต่างและแนวทางที่แตกต่างกันออกไป” เนื่องจากระบบคลาวด์ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถส่งมอบได้จากระยะไกลซึ่งเป็นการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ จึงหันไปใช้บริการแบบวางระบบภายนอกองค์กร (Off-Premise) กัน แต่ธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากยังไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้อย่างเต็มที่นัก
Glass พูดว่า “องค์กรธุรกิจขนาดเล็กมีแอพพลิเคชันแบบเดิมจำนวนไม่น้อยที่รันอยู่ภายในองค์กรและต้องการเสริมแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ โดยบริการใช้ระบบคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสำรองข้อมูล การทำงานร่วมกัน หรือแอพพลิเคชันด้านธุรกิจอื่น ๆ” Glass พูดว่า “ลูกค้าจำนวนมากกำลังดิ้นรนหาวิธีลดช่องว่างนี้” แม้ว่าจะมีความวิตกกังวลมากขึ้น แต่ธุรกิจขนาดเล็กกลายเป็นตลาดไอทีที่ใหญ่เป็นอันดับสองในด้านธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ของ HPE ซึ่งประกอบด้วยตลาดมูลค่า 11 พันล้านเหรียญ ซึ่งมีอัตราการเติบโตรวมเกือบร้อยละ 4 ที่คาดการณ์ไว้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
เซิร์ฟเวอร์คลาวด์แบบกำหนดเองได้ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อองค์กรธุรกิจขนาดเล็กเป็นหนึ่งในวิธีการที่ใช้ระบบคลาวด์เรียกว่า "ไฮบริด" ซึ่งรวมชุดเซิร์ฟเวอร์จัดวางในองค์กร (on-premise server) มีองค์ประกอบทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ในการรันบริการคลาวด์ ผู้จำหน่ายสามารถนำเสนอโซโลชั่นระดับองค์กรไปยังตลาดใหม่ ๆ โดยใช้คนในทีมงานเล็ก ๆ เตรียมเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งค่าพร้อมใช้งานเอาไว้แล้วทำให้สามารถจัดหาและจัดซื้อได้ง่ายขึ้น
หลายผลิตภัณฑ์ที่ขายนอกตลาดเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป อาจจะไม่เหมาะกับระบบคลาวด์ไฮบริด แต่เหมาะกับความต้องการเฉพาะอย่างของธุรกิจขนาดเล็กมากกว่า ซึ่งแตกต่างไปแล้ว แต่ละตลาด มีการศึกษาด้านการตลาดในอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น พบว่าเซิร์ฟเวอร์มีขายอยู่ทั่วไป ทำให้ลูกค้ามีพฤติกรรมเหมือนกันกับธุรกิจขนาดเล็กมาก
Glass กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในสหรัฐอเมริกา มีการศึกษาแนวทางกำหนดส่วนแบ่งทางการตลาดทำให้เกิดการรวมศูนย์ข้ามตลาดภูมิศาสตร์ขนาดใหญ่จูงใจให้องค์กรธุรกิจจัดซื้อมากขึ้น” เขาบอกว่า ทีมงานของเขาทำงานร่วมกับทีมแต่ละส่วนในภูมิภาคเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กำหนดให้เหมาะกับตลาดเป้าหมายได้
ตรวจสอบ (checklist) รายการเซิร์ฟเวอร์
รายการตรวจสอบซื้อเซิร์ฟเวอร์ครั้งแรกส่วนใหญ่ลูกค้าจะพิจารณา 2 เรื่องใหญ่ที่สำคัญ คือ การเพิ่มผลผลิตและการเติบโตของธุรกิจ กระบวนการทางธุรกิจอัตโนมัติ (Automating business processes) มักจะเป็นปัจจัยใหญ่ที่สุดในการเพิ่มผลผลิตโดยรวม และการทำงานโดยอัตโนมัติทำให้จัดการง่ายและให้ความสำคัญกับองค์กรมากขึ้น การนำเสนอผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ไปยังตลาดเฉพาะกลุ่ม (dedicated marketplace) อย่างเช่น HPE ผ่านทางพาร์ทเนอร์ สามารถช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและทรัพยากรด้านไอทีที่มีงบประมาณจำกัดได้ โดยไม่กระทบด้านความปลอดภัยทางธุรกิจของตน